การปลูกในวงบ่อซีเมนต์ และวิธีการบังคับมะนาวออกนอกฤดู (ฤดูแล้ง)
การปลูกในวงบ่อซีเมนต์
“มะนาว” เป็นไม้ผลขนาดเล็กมีความสำคัญในระดับท้องถิ่นที่คนไทย นิยมนำมะนาวมาปรุงอาหารต่าง ๆ เช่น น้ำพริก ต้มยำกุ้ง ต้มยำปลาต้มยำต่าง ๆ ต้มข่าไก่ ส้มตำ ผัดไทย มะนาวยังเป็นไม้ผลที่มีวิตามินซีสูงสามารถทำเป็นน้ำผลไม้และเป็นพืชสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิด การปลูกมะนาวสามารถปลูกได้หลายวิธี ถ้าต้องการบังคับมะนาวให้ออกนอกฤดู โดยไม่ใช้สารเคมี ที่นิยมปลูกในปัจจุบันคือ “การปลูกในวงบ่อซีเมนต์” โดยมีขั้นตอนดังนี้
การคัดเลือกพันธุ์
- พันธุ์มะนาวที่ปลูกในวงบ่อซีเมนต์
เพื่อบังคับให้มะนาวออกดอก-ติดผลนอกฤดูกาล สามารถ บังคับให้ออกดอก-ติดผลได้ทุกสายพันธุ์พันธุ์มะนาวที่เหมาะสมสำหรับการปลูกในวงบ่อซีเมนต์ เพื่อบังคับให้ออกนอกฤดูกาล เช่นมะนาวพันธุ์พิจิตร 1, มะนาวพันธุ์ตาฮิติ, มะนาวพันธุ์แป้นรำไพ, มะนาวพันธุ์ด่านเกวียน
- ต้นพันธุ์มะนาวคัดเลือกต้นพันธุ์มะนาวจาก “กิ่งตอน” หรือ “การเสียบยอด” เลือกต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์แข็งแรงมาปลูกในวงบ่อซีเมนต์
การเตรียมพื้นที่ สำหรับการปลูกมะนาว
- ทำการปรับพื้นที่ให้เรียบสม่ำเสมอ กำหนดระยะปลูกมะนาว ระหว่างแถว – ต้น
- ระยะการวางวงบ่อซีเมนต์โดยทั่วไป มี 2 ระยะได้แก่ ระยะการวางวงบ่อซีเมนต์ระหว่างแถว – ต้นห่างกัน 3 เมตร และ 3.5 เมตร เพื่อสะดวกต่อการดูแลรักษาและการเก็บเกี่ยวผลผลิต
การเตรียมวงบ่อซีเมนต์
วงบ่อซีเมนต์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เชนติเมตร สูง 40 เซนติเมตร ด้านล่างของวงบ่อซีเมนต์ต้องมีแผ่นซีเมนต์วงกลมวางรองก้นวงบ่อซีเมนต์ (ต้องไม่เชื่อมติดกับวงบ่อซีเมนต์)
การเตรียมดินปลูก
ส่วนผสมดินสำหรับปลูกมะนาว ในวงบ่อซีเมนต์
- หน้าดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ 2 ส่วน
- ปุ๋ยคอกที่สลายตัวแล้ว 1 ส่วน
- ปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้ว 1 ส่วน
- ขี้เถ้า (แกลบดำ) 1 ส่วน
” ดินผสมอาจมีหลายสูตร สามารถใช้ตามความเหมาะสมของผู้ปลูก “
การปลูก
- นำดินที่ผสมแล้วมาใส่ในวง บ่อซีเมนต์ ที่จัดเตรียมไว้ในวงบ่อซีเมนต์ แล้วย่ำให้แน่นพอควร แล้วพูนดินปลูกขึ้นมาอีกเมื่อปลูกมะนาวไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ดินจะยุบตัวพอดีกับขอบวงบ่อซีเมนต์
- ขุดหลุมตรงกลางในวงบ่อซีเมนต์ขนาดเท่ากับถุงมะนาวที่ชำแล้วบี่บรอบถุงชำมะนาวเบา ๆ เมื่อดินหลวม ๆ ดึงถุงพลาสติกออก
- นำต้นพันธุ์มะนาวปลูกตรงกลางหลุมกลบดิน กดดินเบา ๆ ให้แน่นพอประมาณ จากนั้นนำหลักมาปักแล้วใช้เชือกฟางผูกต้นพันธุ์มะนาวกับหลักให้แน่น เพื่อป้องกันลมพัด – โยก
- ใช้ฟางข้าวหรือเศษหญ้าแห้ง คลุมหน้าดินช่วยควบคุมความชื้นในวงบ่อซีเมนต์ได้ดีขึ้น (ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ๆ ) รดน้ำให้ชุ่มในครั้งแรกอาจต้องเปลืองน้ำบ้างสังเกตให้น้ำซึมถึงดินบริเวณวงบ่อซีเมนต์ด้านล่าง
การปฏิบัติดูแลรักษา
-
การให้น้ำ
สังเกตจากใบยอดมีอาการเริ่มขาดน้ำ (เริ่มเหี่ยว) ก็รดน้ำให้พอชุ่มจะใช้เวลาประมาณ 7-15 วันต่อครั้งหรือตามวัสดุที่ใช้ปลูกและความอุดมสมบูรณ์ของดินของแต่ละวงบ่อซีเมนต์ ควรรดน้ำให้ชุ่มทั้งวงบ่อซีเมนต์
-
การใส่ปุ๋ย
ในระยะการเจริญเติบโต ควรใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือปุ๋ยที่มีสูตรใกล้เคียง ในอัตรา 2 ช้อนแกง ต่อ 1 ต้น ต่อ 1 เดือน หรือประมาณ 1 กำมือพอดี พอผลมะนาวเจริญเติบโตประมาณเท่าลูกปิงปองแล้วให้ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 14-14-21 ในอัตราเท่ากัน จะทำให้มะนาวมีน้ำมากขึ้นและเปลือกจะบางลง
-
การตัดแต่งกิ่ง
มะนาว เป็นไม้ผลที่มีความจำเป็นต้องตัดแต่งกิ่งหลังการเก็บผลผลิตแล้ว แต่มะนาวบางพันธุ์ต้องตัดแต่งกิ่งก่อนการออกดอก เช่น มะนาวพันธุ์พิจิตร 1 (แป้นพิจิตร) เป็นมะนาวที่ออกดอก ติดผลที่ปลายกิ่ง ต้องตัดยอดเพื่อให้แตกกิ่งจำนวนมากจะทำให้มะนาวออกดอกติดผลดก
-
การค้ำกิ่ง
เมื่อมะนาวติดผลดีแล้วจำเป็นต้องทำการค้ำกิ่ง เพื่อป้องกันไมให้กิ่งฉีก-หัก หรือล้ม-เอน ตามน้ำหนักของผลจะค้ำเป็นรายกิ่งหรือจะทำแบบนั่งร้านจะเหมาะสมมาก หรือจะมีวิธีแบบทำอย่างอื่นก็ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
โรคศัตรูสำคัญที่พบในมะนาว
1) โรคแคงเกอร์
สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าทำลายทั้งใบ กิ่ง และผลของมะนาว ทำให้เกิดโรคตกสะเก็ดบนใบ กิ่ง และผล ถ้าระบาดมากใบจะร่วงและกิ่งจะแห้งตาย ผลขรุขระไม่น่ารับประทาน เป็นโรคที่สำคัญที่ทำความเสียหายแก่มะนาวมากที่สุด
การป้องกันกำจัด ไม่ควรขยายพันธุ์มะนาวจากต้นที่เป็นโรคแคงเกอร์มาปลูก ควรตัดแต่ง ใบ กิ่ง และผลมะนาวที่เป็นโรคนี้ไปเผาไฟ พ่นสารประกอบทองแดง เช่น คูปราวิทค็อปปิไซด์ หรือยาปฏิชีวนะที่ทำลายเชื้อแบคทีเรีย เช่น สเตร็ปโตมัยซินซัลเฟตแอกริมัยซิน หรือแคงเกอร์เอ็กซ์ วิธีที่ดีที่สุดควรปลูกพันธุ์ที่มีความต้านทาน เช่น พันธุ์พิจิตร 1, พันธุ์ตาฮิติ, พันธุ์ด่านเกวียน
2) โรครากเน่าโคนเน่า
สาเหตุ เกิดจากเชื้อราไฟท็อปทอราหรือเกิดจากการปลูกมะนาวลึกเกินไป หรือเกิดจากมีน้ำท่วมมากเป็นเวลานาน หรือเกิดจากการใช้ปุ๋ยคอกหรือปุยหมักที่สดยังไม่สลายตัวมาเป็นวัสดุในการปลูกมะนาว มะนาวจะแสดงอาการใบเหลืองซีด และเหี่ยวใบร่วง และกิ่งแห้งตายในที่สุด
การป้องกันกำจัด ไม่ควรปลูกมะนาวลึกเกินไป ก่อนใส่ปุ๋ยหมักและปุยคอกควรกำจัดเชื้อราก่อน โดยเชื้อไตรโครเดอร์มามาคลุกดินก่อนการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ไม่ควรใช้วงบ่อที่มีกันติดกับวงบ่อซีเมนต์ทำให้การระบายน้ำจะไม่สะดวก รากมะนาวอาจเน่าตายเสียหายได้ถ้าพบมะนาวเป็นโรครากเน่า ขุดหรือถอนมะนาวต้นนั้นไปเผาทำลาย
3) โรคยางไหล
สาเหตุ เกิดจากเชื้อราหรือการขาดน้ำ ขาดธาตุอาหารบางชนิด มะนาวที่เป็นโรคนี้ จะมียางไหลออกมาตามรอยแตกของเปลือก ต้นจะทรุดโทรม กิ่งแห้ง และใบไม่สดใส
การป้องกันกำจัด ไม่ควรนำกิ่งพันธุ์ที่เป็นยางไหลมาปลูก ตัดแต่งกิ่งที่เป็นโร่คนี้ไปเผาทำลาย บำรุงตันมะนาวให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอและพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรค ได้แก่ ค็อปเปอร์อ๊อกซีคลอไรด์
แมลงศัตรูมะนาวที่สำคัญ
1) หนอนชอนใบ
สาเหตุ เกิดจากหนอนของผีเสื้อกลางคืนที่มาวางไข่ที่ใบอ่อนของมะนาว จากไข่ก็จะฟักเป็นตัวหนอนแล้วชอนไชกินน้ำเลี้ยงที่อยู่ระหว่างผิวใบทั้งด้านหน้าและหลังใบ สังเกตเห็นเป็นทางสีขาวคดเคี้ยวไปมา ทำให้ใบมะนาว หงิกงอและแห้งใบมะนาวจะไม่เจริญเติบโต ต้นแคระแกร็น
การป้องกันกำจัด ตัดแต่งยอดอ่อนหรือใบอ่อนที่มีแมลงทำลายไปเผาทำลาย ไม่ให้หนอนของผีเสื้อชนิดนี้แพร่กระจายมากขึ้น ในระยะที่มะนาวแตกใบอ่อนแต่ละครั้ง ควรมีการป้องกันกำจัดแมลงชนิดนี้อยู่เสมอ โดยใช้เชื้อราบิวเวอเรีย หรือสารเคมีซึ่งได้แก่ ไทอะมีโทแซม อะบาร์แม็กติน คาร์โบซัลแฟน
2) หนอนกินใบ (หนอนแก้ว)
สาเหตุ เกิดจากหนอนของผีเสื้อกลางวัน หนอนชนิดนี้จะกัดกินใบอ่อนของมะนาว ถ้าระบาดมากใบอ่อนของมะนาวจะถูกกัดกินเว้าแหว่งเหลือแต่ก้านใบ ใบจะหมดทั้งต้น ภายใน 2-3 วัน
การป้องกันกำจัด หมั่นตรวจดูใบและยอดอ่อนของมะนาวเมื่อพบไข่หรือตัวหนอนชนิดนี้ควรจับไปทำลาย และพ่นสารเคมีป้องกันกำจัด ได้แก่ สารคาร์บาริล อะบาร์แม็กติน คาร์โบซัลแฟน
3) เพลี้ยไฟ
สาเหตุ เกิดจากแมลงขนาดเล็ก ดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนต่าง ๆ ของลำต้น โดยเฉพาะดอกมะนาวบริเวณขั้วดอก-ผล ทำให้มะนาวไม่ค่อยติดผล หรือทำให้ผลมะนาวมีผิวขรุขระไม่น่ารับประทาน
การป้องกันกำจัด มีการพ่นโดยใช้เชื้อราบิวเวอเรีย หรือสารเคมีป้องกันกำจัด ได้แก่ สารคาร์โบซัลแฟน
การบังคับให้มะนาวออกดอกนอกฤดู
การบังคับให้มะนาวออกดอกนอกฤดูสามารถกระทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่จะทำให้ต้นมะนาวไม่โทรมเร็วเกินไปควรปฏิบัติดังนี้
- เดือนกันยายน : ใส่ปุ๋ยเคมีที่มีอัตราส่วน 1:3:3 เช่นปุ๋ย สูตร 8:24:24 เพื่อบำรุงให้ใบแก่เร็วขึ้นและ เก็บอาหารไว้บำรุงดอกต่อไป
- เดือนตุลาคม : งดการให้น้ำเพื่อให้ต้นมะนาวมีการสะสมอาหารจนเมื่อถึงปลายเดือนตุลาคมจึงค่อยให้น้ำเต็มที่
- เดือนพฤศจิกายน : มะนาวเริ่มออกดอก ควรฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดแมลง ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน ดอกจะเริ่มบาน และเริ่มติดผลควรป้องกันกำจัดแมลงในช่วงนี้ด้วย
- เดือนธันวาคม : ใส่ปุ๋ยเคมีที่มีอัตราส่วน 1:1:1 เช่น ปุ๋ยสูตร 15:15:15 หรือ 16:16:16 เพื่อบำรุงต้นมะนาวให้สมบูรณ์
- เดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ผลมะนาวจะเริ่มโตพอที่จะเก็บเกี่ยวได้บ้าง ในระยะแรก จนกระทั่งกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนเมษายน ผลมะนาวก็จะโตพอที่จะเก็บเกี่ยวได้ซึ่งจะตรงกับช่วงที่มะนาวมีราคาแพงพอดี หลังจากที่ได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตหมดแล้วประมาณเดือนพฤษภาคม ควรตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ยคอก และปุ๋ยเคมีสูตร 15:15:15 เพื่อบำรุงต้นให้สมบูรณ์ และพร้อมสำหรับการผลิตมะนาวนอกฤดูในปีต่อไป
การเก็บเกี่ยว
การเก็บผลมะนาวโดยใช้มือบลิดควรเก็บในขณะที่ผลเริ่มแก่สังเกตจากด้านขั้วของผลเริ่มมีสีเหลืองเล็กน้อยผิวเปลือกจะเรียบบางใสมีสีเขียวอ่อนกว่าผลที่ยังไม่แก่ เมื่อบีบดูจะค่อนข้างนุ่มมือไม่ควรเก็บมะนาวที่แก่เกินไป เพราะเปลือกจะบางมากทำให้เกิดความเสียหายในการขนส่งได้ง่ายอีกทั้งเมื่อนำไปขายจะทำให้ขายได้ไม่นานผลเน่าเสียหายได้เร็ว
ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
บทความที่น่าสนใจ