หมูหลุมดินชีวภาพ ทางรอด รายย่อย
หมูหลุมดินชีวภาพ เป็นการผลิตเนื้อหมูสำหรับคนบริโภคในท้องถิ่น เน้นเทคนิคด้วยการจัดการคอกไม่ให้มีน้ำเสีย มูลสัตว์สามารถกำจัดในคอก โดยการทำงานของจุลินทรีย์ท้องถิ่น ของเสียเหล่านั้นถูกนำกลับเป็นปัจจัยการผลิตในการปลูกพืช ทั้งที่เป็นพืชที่ปลูกเป็นรายได้และพืชที่เป็นอาหารสัตว์ เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ เป็นการหมุนเวียนใช้พลังธรรมชาติด้วยเทคโนโลยีที่พึ่งพาตนเองได้
การเลี้ยงหมูหลุมดินชีวภาพ
สามารถลดต้นทุนอาหารผสมสำเร็จได้ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากอาหารหลักที่ให้หมูกินคือ ผักนานาชนิด ได้แก่หยวกกล้วย ผักเบี้ยผักขม ผักตบชวายอดกระดิน โดยนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆส่วนอาหารผสมสำเร็จ ให้เพียง 30เปอร์เซ็นต์ของอาหารที่เคยให้ เท่านั้น
การเตรียมคอก
ขนาดคอกกว้างประมาณ 2 X 6 เมตร สามารถเลี้ยงหมูได้ 9 ตัว
การเตรีอมวัสดุพื้นคอก
พื้นคอกปูด้วยแกลบผสมดินละเอียดทำให้อ่อนนุ่ม หมูอยู่สบายไม่เครียด และจากการราดด้วยน้ำหมักชีวภาพจุลินทรีย์จะช่วยย่อยสลายสิ่งปฏิกูล ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็น และช่วยรักษาสภาพความสมดุลได้
จุลินทรีย์ เป็นเครื่องมือสำคัญในการเลี้ยงหมูหลุมและเกษตรอินทรีย์ จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ปัจจุบันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยเฉพาะเทคโนโลยีชีวภาพและ นาโนเทคโนโลยีทำให้ทราบบทบาทของจุลินทรีย์และการนำมาใช้ประโยชน์ในการเกษตร สมัยใหม่ เพื่อผลิตอาหารสำหรับมนุษย์ที่ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ซึ่งมีผลเสียต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จุลินทรีย์มี 3 ประเภท คือ
- จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์
- จุลินทรีย์ก่อโรค
- จุลินทรีย์ที่เป็นกลาง ซึ่งมีหลากหลายชนิดมากและกระบวนการทำงานของจุลินทรีย์มีสิ่งที่มนุษย์ยังไม่สามารถเรียนรู้ได้หมด
การเลี้ยงหมูหลุม ใช้ความรู้ในการจัดการคอกและการให้อาหารแก่หมูด้วยบทบาทของจุลินทรีย์ 2 ประการ คือ
- บทบาทการย่อยสลาย สารประกอบอินทรีย์ ที่มีโครงสร้างซับซ้อนที่พืชและสัตว์ไม่สามารถย่อยสลายใช้ประโยชน์ได้ เช่น ซากพืช ซากสัตว์ ของเสีย สิ่งขับถ่าย แต่จะมีจุลินทรีย์บางชนิดที่มีในธรรมชาติสามารถย่อยให้เป็นองค์ประกอบที่ไม่ซับซ้อนทำให้พืชและสัตว์ใช้ประโยชน์ได้ และแร่ธาตุบางชนิดที่เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมเช่น อาร์เซนิค แคดเมี่ยม จะถูกย่อยสลายไม่เป็นพิษสะสมในพืช เป็นต้น
- บทบาทการสังเคราะห์สารประกอบอินทรีย์ เช่น สารคล้ายปฎิชีวนะ เอนไซม์ กรดแลคติค ซึ่งเป็นผลผลิตจากการหมักชีวภาพ เช่นการใช้ Probiotics ผสม น้ำหรือผสมอาหารสัตว์ ทดแทนการใช้สารปฏิชีวนะเร่งการเจริญเติบโตในการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งต่างประเทศกำลังนิยมใช้เป็นปัจจัยการผลิตที่เป็นธรรมชาติ ประเทศไทยได้มีการนำเข้ามาใช้มากกว่า 60 ราย แต่ Probiotics ที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านในประเทศไทย คือน้ำหมักชีวภาพที่มีสูตรหลากหลาย และนักวิชาการส่วนมากยังไม่ยอมรับนั่นเอง
การให้อาหารและน้ำ
น้ำสำหรับหมูกินต้องผสมน้ำหมักชีวภาพใส่ภาชนะและปิดฝา แล้วต่อท่อไปสู่ก็อกสำหรับให้น้ำหมู
การป้องกันโรค
หมูอาจมีอาการท้องเสีย หรือขี้เหลวได้ต้องรักษาโดยนำใบฝรั่งสด ใบฟ้าทะลายโจรสด และเถาบอระเพ็ด เอาให้หมูกินรวมทั้งต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร เช่น อาหารและน้ำอาจไม่สะอาดพอก็ต้องปรับปรุงแก้ไขใหม่
บทความที่น่าสนใจ