“หลุมพอเพียง” ปลูกผักง่ายๆ ได้หลากหลายในพื้นที่จำกัด
แนวคิดของ “หลุมพอเพียง” นั้นมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเน้นหลักการสำคัญ 3 ประการคือ
- ความพอประมาณ: การทำสิ่งต่างๆ อย่างพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป สอดคล้องกับศักยภาพของตนเองและสภาพแวดล้อม
- ความมีเหตุผล: การตัดสินใจและกระทำสิ่งต่างๆ อย่างมีเหตุผล พิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ
- การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี: การเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
เมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการเกษตร “หลุมพอเพียง” จึงเป็นการทำการเกษตรในพื้นที่จำกัดอย่างพอประมาณ โดยอาศัยความเข้าใจในระบบนิเวศและการพึ่งพาอาศัยกันของสิ่งมีชีวิตต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาปัจจัยภายนอก
นอกจากนี้ แนวคิดของหลุมพอเพียงยังได้รับอิทธิพลจากหลักการของ “วนเกษตร” (Agroforestry) และ “เกษตรผสมผสาน” (Integrated Farming) ซึ่งเน้นการปลูกพืชหลายชนิดร่วมกันในพื้นที่เดียว เพื่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และความยั่งยืนของระบบ
วิธีการทำหลุมพอเพียง พืช 9 ต้น 1 หลุม (ไม่มีสูตรตายตัวสามารถประยุกต์ตามความเหมาะสมของแต่ล่ะท่านได้เลย)
ขั้นตอน
- ขุดหลุมขนาด กว้าง 2 เมตร x ยาว 2 เมตร x ลึก 1 เมตร โดยแต่ละหลุมปลูกห่างกันระยะ 4 x 4 เมตร
- พื้นที่จำนวน 1ไร่ จะขุดหลุมได้ 100 หลุม โดยแบ่งหลุมออกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วน แบ่งออกเป็น 3 ชั้น
- ชั้นที่ 1 ใช้ฟางข้าว
- ชั้นที่ 2 โรยปุ๋ยคอก
- ชั้นที่ 3 กลบดิน
- ทำแบบนี้ไปจนครบทั้ง 3 ส่วน หมักทิ้งไว้ 1 เดือน ให้ดินยุบตัวจึงจะปลูกได้ หากต้องการปลูกเลยให้เจาะรู ระบายความร้อนหลุมละ 8 รู
วิธีการปลูกพืช 9 ทิศ ใน 1 หลุม ไล่แมลง ไม่ต้องให้น้ำให้ปุ๋ยบ่อย
แนวคิดนี้ไม่ได้มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนมารองรับโดยตรง แต่เป็นการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและความเชื่อเกี่ยวกับการไหลเวียนของพลังงานในธรรมชาติ (ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับทิศทางลม แสงแดด และความชื้น) ร่วมกับการจัดวางพืชให้มีความหลากหลายและเกื้อกูลกัน
โดยทั่วไปแล้ว การจัดวางพืช 9 ทิศใน 1 หลุม จะเน้นการเลือกพืชที่มีลักษณะแตกต่างกัน ทั้งในด้านความสูง การใช้แสงแดด ความต้องการน้ำและธาตุอาหาร รวมถึงระบบราก เพื่อให้ใช้ทรัพยากรในหลุมได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการแข่งขัน
- ตรงกลาง
ปลูกพืชพี่เลี้ยง เช่น กล้วย 1-2 ต้น ให้ความชุ่มชื้น กับไม้ทั้ง 8 ต้น บังแดดตอนบ่ายให้พืชอื่นๆ เมื่อปลูก 1 ปี จะได้กล้วยเครือแรกให้ตัดทิ้ง ปล่อยหน่อใหม่ให้เกิดขึ้นมา - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ปลูกไม้หลัก ปลูกห่างจากกล้วย อย่างน้อย 50 ซม. ให้กล้วยเป็นพี่เลี้ยง ให้ความชื้นบังแดดจนกว่าจะโต เช่น ขนุน มะม่วง มะนาว กระท้อน - ทิศตะวันออก
ปลูกไม้ดอก ที่ชอบแดดช่วงเช้า ปลูกเพื่อล่อผึ้งมาผสมเกสร - ทิศตะวันออกเฉียงใต้
ปลูกผักสวนครัว ที่ชอบแดดเช้า ปลูกใกล้ไม้ดอก เช่น พริก มะเขือ กะเพรา ผักต่างๆ ที่เป็นไม้พอกิน เก็บผลได้ไว - ทิศใต้
ปลูกไม้หัวใต้ดิน ทิศใต้ได้รับแดดบ่ายมาก เอาไม้ห้วใต้ดินไม่กลัวแดด ต้องการน้ำน้อย ช่วยคลุมดินได้ไว เช่น มัน เผือก ข่า ขิง กระชาย ขมิ้น เป็นต้น - ทิศตะวันตกเฉียงใต้
ปลูกไม้เบิกนำ ทิศนี้รับแดดบ่ายเต็มที่ เลือกพืช โตไว ต้องการน้ำน้อย หนึ่งปีได้กิน ตัดแต่งทรงไม่ให้สูง ให้เก็บดอก ยอดกินง่าย กิ่งใบ ย่อยสลายเป็นปุ๋ยให้หลุมได้ง่าย เช่น แค มะรุม ขี้เหล็ก เป็นต้น - ทิศตะวันตก
ปลูกพืชคลุมดิน ทิศนี้ก็รับแดดบ่ายเต็มๆ ปลูกไม้พอกิน ไม้พุ่ม ไม้เตีย ใบเยอะ ช่วยบังแดดให้ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศเหนือ ตัดใบมาคลุมหลุมแทนฟางได้ เช่น อ้อย อ้อยดำ ตะไคร้ หญ้าหวาน ข้าวโพด - ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ปลูกผักอายุยืน ผักพื้นบ้าน ที่ปลูกครั้งเดียวแล้วเก็บกินได้ตลอด เป็เช่น ผักไชยา ผักชะอม ผักหวาน ดีปลาช่อน ผักหลอด เหรียง เป็นต้น - ทิศเหนือ
ปลูกสมุนไพร เช่น สาบเสือ ฟ้าทะลายโจร เป็นต้น
“หลุมพอเพียง” คือการปลูกพืชหลากหลายชนิดในหลุมเดียวตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการพึ่งพาอาศัยกันของพืชเพื่อลดการดูแลรักษา ประหยัดพื้นที่ และสร้างความหลากหลายทางอาหาร โดยปลูกพืชหลัก พืชแซม พืชคลุมดิน และอื่นๆ ร่วมกัน เพื่อให้เกิดความสมดุลและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดและต้องการผลิตอาหารเองอย่างยั่งยืน
บทความที่น่าสนใจ