บทความเกษตร » เลี้ยงปลาไหลนาเลียนแบบธรรมชาติ ดูแลง่ายโตไว

เลี้ยงปลาไหลนาเลียนแบบธรรมชาติ ดูแลง่ายโตไว

1 มิถุนายน 2024
175   0

เลี้ยงปลาไหลนาเลียนแบบธรรมชาติ ดูแลง่ายโตไว

เลี้ยงปลาไหลนาเลียนแบบธรรมชาติ

เลี้ยงปลาไหลนาเลียนแบบธรรมชาติ


สวัสดีครับ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการ เลี้ยงปลาไหลนาเลียนแบบธรรมชาติ กันครับ สำหรับปลาไหล นั้นเป็นปลาน้ำจืด ที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยง และ บริโภคมาเป็นระยะเวลายาวนานมาก และยังมีความต้องการในการบริโภคอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีผู้ให้ความสนใจอยากจะทดลองเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ อยู่เสมอไม่ว่าจะเป็น การเลี้ยงปลาไหลระบบน้ำใส หรือ การเลี้ยงปลาไหลในบ่อพลาสติก เป็นต้น สำหรับบทความนี้จะเป็นการแนะนำแนวทางการเลี้ยงปลาไหล ในสไตล์เลียนแบบธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้งานได้จริง และขั้นตอนการดูแลไม่ยุ่งยากด้วยครับ

ปลาไหลนา หรือ ปลาไหลบึง เป็นปลาน้ำจืด มีรูปร่างเรียวยาวคล้ายงู ตามีขนาดเล็ก คอป่องออก มีอวัยวะช่วยหายใจอยู่ในคอหอยเป็นเส้นเลือดฝอย ซึ่งช่วยให้หายใจได้โดยไม่ต้องผ่านซี่กรองเหงือกเหมือนปลาทั่วไป และยังสามารถขุดรูในดินเพื่อจำศีลในช่วงฤดูร้อนได้ด้วย สีลำตัวปกติเป็นสีเหลืองทอง ใต้ท้องสีขาว ในบางตัวอาจมีจุดกระสีน้ำตาล แต่ก็มีพบมากที่สีจะกลายไป เป็นสีเผือก สีทองทั้งตัว หรือสีด่าง มีความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร พบใหญ่สุดถึง 1 เมตร

พ่อแม่พันธุ์ปลาไหลนา

สำหรับการหาพ่อแม่พันธุ์ปลาไหลนานั้น สามารถหาได้ตามบ่อท้องไร่ท้องนาหรือตามห้วยหนอง คลองบึง ได้เลย โดยการใช้ที่ดักปลาไหล เช่น บั้งรันดัก ลักษณะพ่อแม่พันธุ์ปลาไหลนากนั้น ควรมีลักษณะลำตัวดังนี้

  • แม่พันธุ์ปลาไหลนา ควรมีน้ำหนักตัวอยู่ในช่วง 60-200 กรัม และความยาวลำตัวอยู่ในช่วง 40-50 ชม.
  • พ่อพันธุ์ปลาไหลนามีน้ำหนักตัวมากกว่า 300 กรัม และความยาวลำตัวมากกว่า 70 ชม.

การเตรียมบ่อเพาะขยายพันธุ์

เตรียมบ่อเลียนแบบธรรมชาติ (บ่อซีเมนต์หรือบ่อพลาสติก ขนาด 1 x 2 หรือ 2 x 4 หรือ 3 x 6 เมตร ) โดยนำแผงไม้ไผ่มาวางตรงกลางภายในบ่อ เว้นระยะห่างระหว่างแผงไม้ไผ่กับขอบบ่อแต่ละด้านประมาณ 30-40 ซม. แล้วนำดินนาหรือดินเหนียวที่มีลักษณะเป็นก้อนดินมาใสให้เต็มบริเวณพื้นที่รอบขอบบ่อแต่ละด้าน ให้มีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร จากนั้นเติมน้ำลงไปในบ่อให้มีระดับความลึกประมาณ 15-20 ซม. และมีส่วนของดินที่อยู่โผล่เหนือน้ำประมาณ 10-15 ซม. ปลูกพืชน้ำให้เป็นที่หลบซ่อนของพ่อแม่พันธุ์ ทั้งนี้เตรียมบ่ออย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศภายในบ่อ และเตรียมอย่างน้อยจำนวน 2 บ่อ เพื่อใช้เป็นบ่อพักพ่อแม่พันธุ์ปลาไหลนา และบ่อสำหรับเพาะขยายพันธุ์

คัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ปลาไหลนาที่รวบรวมจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติที่มีสภาพแข็งแรงและขนาดที่เหมาะสม มาพักไว้ในบ่อพัก (ภาพที่ 3 ข) (ความหนาแน่น 1 กก./ตร.ม) อย่างน้อย 2-3 เดือน ก่อนถึงช่วงฤดูกาลผสมพันธุ์ คือ ระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม เพื่อให้พ่อแม่พันธุ์ได้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม

จากนั้นปล่อยพ่อแม่พันธุ์ในบ่อเพาะขยายพันธุ์ อัตราส่วนจำนวนพ่อพันธุ์ต่อแม่พันธุ์ คือ 1-2 ตัว (ความหนาแน่น 1 กก./ตร.ม)

การฟักไข่และอนุบาลลูกปลาไหลนา

ภายใน 1 – 2 สัปดาห์ พ่อแม่พันธุ์ปลาไหลนาจะผสมพันธุ์วางไข่โดยเริ่มแรกพ่อพันธุ์จะทำโพรงดินบริเวณพื้นที่ดินที่ปริ่มน้ำ และก่อหวอด เพื่อให้แม่พันธุ์มาผสมพันธุ์และวางไข่บริเวณหวอด ทั้งนี้ภายหลังปล่อยพ่อแม่พันธุ์ปลาไหลนาที่ถูกฉีดกระตุ้นด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์ในบ่อเพาะขยายพันธุ์แล้ว ให้ทำการเช็คการผสมพันธุ์วางไข่ของพ่อแม่พันธุ์ภายใน 1 สัปดาห์ หากไม่พบการผสมพันธุ์วางไข่ (สังเกตจากหวอด) ให้ทำการเช็คการผสมพันธุ์วางไข่ ทุก 2 – 3 วัน นอกจากนี้หากตรวจพบไข่บริเวณหวอดให้ทำการเก็บไขไปฟักในระบบถาดต่อไป

ไข่ปลาไหลนาที่อยู่ในระบบถาด จะฟักออกมาเป็นลูกปลาไหลนา ภายใน 3 – 5 วัน โดยระยะแรกลูกปลาไหลนาจะมีถุงไข่แดงบริเวณใต้ท้องในระยะนี้ไม่ต้องมีการให้อาหาร จากนั้นภายใน 2 – 3 วันถุงไข่แดงก็จะยุบหายไป เริ่มให้ไรแดงเป็นอาหารแก่ลูกปลาไหลนา ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็นำลูกปลาไหลนาไปอนุบาลในลักษณะเดียวกับการเพาะขยายพันธุ์โดยวิธีเลียนแบบธรรมชาติ

การให้อาหาร

การอนุบาลลูกปลาไหลหลังจากที่ลูกปลาไหลฟักออกแล้ว 3-5 วัน ให้เริ่มให้อาหารด้วยไข่ต้มบด และไรแดง 2 ครั้ง/วัน เช้า และเย็นเป็นเวลา 2 อาทิตย์ หลังจากนั้น จึงให้อาหารที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น หนอนแดง หรือ ไส้เดือนขนาดเล็ก นาน อีก 1 เดือน จึงพร้อมปล่อยเลี้ยงในบ่อต่อไป

การให้อาหารจะให้เดือนละครั้ง อาหารที่ให้ เช่น ซากสัตว์ที่ตาย ไส้หมู, หนังควาย ปลวกไส้เดือน หอย หนอน

ข้อควรระวังในการเลี้ยงปลาไหล

การรวบรวมพันธุ์ปลาจากธรรมชาติ เข้ามาเลี้ยงควรระมัดระวังในเรื่องการลำเลียงไม่ควรให้หนาแน่นมากเกินไปปลาจะบอบช้ำได้ และ ควรคัดปลาขนาดเดียวกันลงเลี้ยงรวมกันเพื่อลดปัญหาการกินเองโดยเฉพาะในปลาอายุต่ำกว่า 2 เดือน พื้นบ่ออนุบาลควรฉาบผิวให้เรียบป้องกันปลาเป็นแผลถลอกได้ ฟางข้าวที่ใช้เพื่อการเลี้ยงควรเป็นฟางข้าวที่แห้ง บ่อควรมีร่มเงาบังแสงแดดบ้าง


บทความที่น่าสนใจ