บทความเกษตร » อาชีพเสริม เลี้ยงปูนา เลี้ยงง่ายสร้างรายได้งาม

อาชีพเสริม เลี้ยงปูนา เลี้ยงง่ายสร้างรายได้งาม

8 มิถุนายน 2023
329   0

อาชีพเสริม เลี้ยงปูนา เลี้ยงง่ายสร้างรายได้งาม

เลี้ยงปูนา

เลี้ยงปูนา


วันนี้จะมาพูดถึง “อาชีพเสริม เลี้ยงปูนา ซึ่งสร้างรายได้ไม่ธรรมดา”  เมื่อเราพูดถึง ปูนา นั้นถ้าคนต่างจังหวัดจะรูปจักเป็นอย่างดี เพราะเวลาที่เราไปทำนานั้นจะมีปูที่อยู่ในนาอยู่แล้วเพราะเป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับเราคนไทยมาช้านาน เพราะว่าปูนา ในสมัยก่อนนั้นหาได้ง่าย ตามท้องทุ่งนาทั่วไป แต่ในปัจจุบันนั้นปูนาค่อนข้างที่จะหาได้ยากเพราะมีสารเคมีจากการทำการเกษตร คนจึงหันมานิยมเลี้ยงปูนากัน เพื่อบริโภคและจำหน่ายกันมากขึ้น และ เลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริมซึ่งรายได้นั้นก็ค่อนข้างดีกันเลยทีเดียว

รูปแบบการเลี้ยงปูนา

สำหรับรูปแบบการเลี้ยงปูในในปัจจุบันนั้น สามารถเลี้ยงได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับพื้นที่และความสะดวกของเกษตรกรผู้ซึ่งการเลี้ยงแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป เพราะฉนั้นการเลี้ยงปูนาจึงไม่มีสูตรตายตัวครับ แต่ก็พอจะแบ่งออกคร่าวๆ ได้ดังนี้

  • เลี้ยงปูนาในบ่อซีเมนต์
  • เลี้ยงปูนาในบ่อดิน
  • การเลี้ยงปูนาเลียนแบบธรรมชาติ

การเลี้ยงปูนาในรูปแบบต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จะมีขั้นตอนการเลี้ยงและการดูแลที่แตกต่างกันออกไป ตามความเหมาะสมของผู้เลี้ยง ซึ่งในบทความนี้เราจะมายกตัวอย่าง เลี้ยงปูนาในบ่อซีเมนต์ กันครับ

การสร้างบ่อซีเมนต์เพื่อเลี้ยงปูนา

ในการทำบ่อชีเมนต์สำหรับเลี้ยงปูนาแล้วแต่ความสะดวกของเกษตร โดยส่วนใหญ่แล้วนิยมทำขนาด 2×3 เมตร จะทำเป็นแบบเทพื้นปูน หรือจะเลี้ยงแบบพื้นดินก็ได้ แต่แนะนำให้ทำแบบพื้นปูนแล้วใส่ดินหน้าประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร เพื่อให้ปูได้ขุดรู โดยการใส่ดินเข้าไปในบ่อนั้น เทดินแบบลาดเอียง อีกข้างหนึ่งมีน้ำ เลียนแบบบ่อธรรมชาติ นั่นเอง หรือจะเทดินทั้งหมด แล้วใส่น้ำในกะละมังก็ได้ แล้วแต่สะดวก
เลี้ยงปูนา

ปลูกพืชพรรณไม้น้ำเพื่อให้เป็นแหล่งอาศัยและเป็นแหล่งอาหารของปูนา อาทิ ผักบุ้ง ผักตบชวา ทำการต่อสปริงเกอร์ หรือ ถ้าไม่มีก็สามรถช้สายยางธรรมดาเตรียมไว้คอยฉีดน้ำให้บ่อชุ่มชื่นอยู่เสมอ หาเศษไม้ขอนไม้ หรือทางมะพร้าวมาวางในบ่อ เพื่อให้ปูได้อยู่อาศัยหลบซ่อน จากนั้นเราก็ปล่อยปูนาลงเลี้ยง (หาได้จากธรรมชาติหรือซื้อมาก็ได้)  1 กิโลกรัม/1 บ่อ  (อัตราส่วนปูตัวผู้และตัวเมียอย่างละเท่าๆกัน)

พืชน้ำ
     พืชและวัสดุอื่นๆ ที่มีการใช้ในการเลี้ยงปูนานั้นก็สามารถนำมาเลี้ยงได้หลากหลาย โดยเฉพาะ ผักตบฉวา จอก และ แหน นอกจากจะเป็นการเพิ่มที่หลบซ่อนให้ปูแล้ว  ยังเป็นอาหารเสริมชั้นดีให้กับปูอีกด้วย

อาหารสำหรับเลี้ยงปูนา

การให้อาหารโดยใช้อาหารปลาดุกเม็ดเล็กเสริมด้วยข้าวสวยหุงสุกคลุกเคล้าให้เข้ากัน หว่านประมาณ 1 กำมือ ในช่วงเย็นเนื่องจากปูนาจะออกหากินตอนกลางคืน และหมั่นดูแลบริเวณที่อยู่ของปูให้สะอาดโดยต้องเก็บเศษอาหารที่ปูกินไม่หมดทิ้ง และเก็บปูที่ก้ามหลุดออกเนื่องจากจะส่งผลให้โดนปูตัวอื่นมารุมทำร้ายและตายได้ และหากทิ้งอาหารหรือปูที่ตายไว้นานๆจะเกิดกลิ่นเหม็นเน่าและมีเชื้อราเกิดขึ้นทำให้ปูเกิดโรคได้ง่าย

การเพาะพันธุ์

ปูนาสามรถนำมาเพาะในโรงเพาะฟักเพื่อผลิตลูกปูวัยอ่อนได้เช่นเดียวกับปูม้า หรือปูทะเล บ่อที่ใช้จะเป็นบ่อซีเมนต์ ถังพลาสติก หรือ ตู้กระจก ก็ได้ ขนาดของบ่อก็ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการจัดการของแต่ละท่าน

เลี้ยงปูนา

พ่อแม่พันธุ์

พ่อแม่พันธุ์ ในระยะแรกก็คงต้องรวบรวมจากธรรมชาติ จะเริ่มเพาะจากพ่อแม่พันธุ์ก็ได้ หรือจะใช้แม่ปูที่มีไข่ที่จับปิ้งและมีลูกปูวัยอ่อนที่ติดกระดองอยู่แล้วมา อนุบาล ก็จะประหยัดเวลาและต้นทุนในการผลิตได้มาก

การผสมพันธุ์ของ ปูนา

เมื่อปูนาเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ขนาดประมาณ 2 เซ็นติเมตร อายุ 90 วันหรือประมาณ3 เดือนจะมีการลอกคราบประมาณ 7 ถึง 9 ครั้งขึ้นอยู่กับสารอาหารที่ได้รับ และปูที่สามารถเป็นพ่อ-แม่พันธ์ควรมีอายุระหว่าง 5-8เดือน ถ้าอายุมากกว่านั้นจะเริ่มเป็นปูแก่อัตราการให้ลูกหรือผลิตน้ำเชื่อมเริ่มลดลงตามวัย ไม่เหมือนปูวัยรุ่น ลักษณะของปูเพศผู้จะมีกล้ามซ้ายใหญ่กว่าข้างขวาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนท้องที่เรียกว่าจับปิ้งจะมีฐานกว้างปลายเรียวแหลมคล้ายตัวที ส่วนเพศเมียก้ามเล็กตามทั้งสองมีความแตกต่างกันไม่มาก จับปิ้งมีลักษณะเล็กเรียว ในระยะที่ยังไม่สมบูรณ์เพศที่เรียกว่าปูกระเทย ก็จะขยายเป็นแผ่นกว้างครึ่งวงกลมเกือบเต็มส่วนท้อง ปลายมน ที่ขอบมีขนละเอียดเพื่อประโยชน์ในการอุ้มไข่ เมื่อเปรียบเทียบขนาดถ้าอายุเท่ากัน ปูเพศผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าปูเพศเมียเสมอ

เมื่อเข้าไปฤดูฝน ปูจะออกจากรูเพื่อหาอาหารตามแหล่งน้ำและผสมพันธุ์ ในฤดูผสมพันธุ์ปูเพศเมียจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวดุ เมื่อตัวผู้เข้าใกล้ ปูเพศผู้จะไล่ปูเพศเมียเป็นระยะๆ เมื่อได้จังหวะปูเพศผู้จะขึ้นคร้อมและใช้ขาคู่ที่ 2 ถึง 4 พยุงเพศเมียไว้ด้านหลัง การจับคู่ในลักษณะนี้จะดำเนินต่อเนื่องกันประมาณ 3 ถึง 4 วัน

เมื่อช่วงเช้าเข้าฤดูผสมพันธุ์ ปูนาเพศเมียจะมีการลอกคราบและมีกระดองนิ่ม รวมถึงมีอาการก้าวร้าวมาก และจะเลือกปูนาเพศผู้เพื่อผสมพันธุ์เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น หากไม่ใช่ตัวที่เลือกก็จะไล่ให้ออกห่าง หากยอมรับก็จะมีการผสมพันธุ์ขึ้น โดยปูนาเพศผู้จะใช้ก้ามจับปูนาเพศเมียหงายขึ้นและแนบลำตัวติดจับปิ้งของปูเพศเมีย พร้อมสอดอวัยวะสืบพันธุ์และฉีดน้ำเชื้อเข้ารูเปิดของปูเพศเมียบริเวณหน้าอก บริเวณโคนขาคู่ที่ 3 ที่มีสองรูเมื่อน้ำเชื้อถูกฉีดเข้าไปจะถูกนำเข้าในถุงเก็บน้ำเชื้อของปูเพศเมีย ซึ้งเก็บได้นาน 3 ถึง 4 เดือน การผสมพันธุ์นี้จะใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง

หลังจากผสมพันธุ์เสร็จ ปูเพศผู้จะยังตามติดปูเพศเมียต่ออีกประมาณ 2 ถึง 3 วัน เพื่อให้ความคุ้มครองอันตรายให้ปูเพศเมีย จนมีกระดองแข็งแรงและสามารถหาอาหารได้ตามปกติ หลังจากการผสมพันธุ์ปูเพศเมียจะผลิตไข่เข้าไปผสมกับน้ำเชื้อและนำออกผ่านทางท่อนำไข่มาพักเก็บไว้ที่แผ่นท้องของตัวเอง ปูแต่ละแม่จะมีไข่ประมาณ 300-500 ฟอง ขึ้นอยู่กับขนาดความสมบูรณ์ของแม่ปู แม่ปูขนาดกระดองกว้างประมาณ 3-4 เซ็นติเมตร จะมีไข่โดยเฉลี่ยประมาณ 700 ฟอง

การอนุบาลลูกปู

ในช่วง 15 วันแรก ควรให้ ไรแดง หนอนแดง เทา หรือไข่ตุ๋น กินเป็นอาหาร หลังจากนั้นควรให้ปลาหรือกุ้งสับอาหารเม็ดที่ใช้เลี้ยงลูกปลาดุกก็ใช้ได้ เมื่อมีอายุประมาณ 30 วันก็สามารถนำไปปล่อยเลี้ยงในบ่อดินหรือบ่อซีเมนต์เพื่อให้มีขนาดโตเต็มวัยได้ความหนาแน่นที่ปล่อยเลี้ยง ลูกปูในระยะนี้ควรปล่อยเลี้ยงในปริมาณ 10,000 ตัว/เนื้อที่ 1 ตารางเมตร

การเจริญเติบโต

ปูนามีการเจริญเติบโตโดยการลอกคราบเช่นเดียวกับปูชนิดอื่น ๆ หลังจากฟักเป็นตัวแล้วปูนาจะลอกคราบประมาณ 13-15 ครั้งก็จะโตเป็นปูเต็มวัย ได้ขนาดตามที่ตลาดการ ต้องใช้เวลาประมาณ 6-8 เดือน

ปูนาลอกคราบ

การลอกคราบ

ปูที่จะลอกคราบสังเกตได้จากรอยต่อทางส่วนท้ายของกระดองจะกว้างมากกว่ากติ เมื่อใกล้จะลอกคราบปูจะนิ่งและเหยียดขาออกไปทั้งสองข้าง จากนั้นรอยต่อทางส่วนท้ายของกระดองก็จะเปิดออก ส่วนท้ายพร้อมกับขาเดินคู่สุดท้ายจะออกมาก่อน ขาคู่ถัดมาจะค่อย ๆ โผล่ออกมาตามลำดับ ส่วนก้ามคู่แรกจะโผล่ออกมาเป็นอันดับสุดท้ายระยะเวลาที่ใช้เวลาลอกคราบทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง

ศัตรูที่ต้องระวัง

นกกระปูด นกแสก หนูนาและพังพอน แมงมุม (ช่วงปูวัยอ่อน) มดคันไฟหรือมดแดง (ช่วงปูลอกคราบ) หรือ เลี้ยงแบบน้ำปนดิน

ปรสิตในปูนา

มีทั้งพยาสิไบไม้และปสิงซีมหยุด ผู้เลี้ยงปูต้องเข้าโจวงจรชีวิตปรสิตของปู เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการนำสิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นพาหะให้ปรสิตอยู่ในตัวปู เฝ้าระวังป้องกันโรคติดต่อจากปรสิตในปู เพื่อลดความเสี่ยงการติดต่อถึงคนรับประทานปูนาแบบปรุงสุก

ปูนา

ราคาจำหน่ายปูนา

การเลี้ยงปูนาในเชิงพาณิชย์เพื่อเลียนแบบธรรมชาติ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจำหน่ายปูนาควรเป็นช่วงฤดูหนาวเพราะเป็นช่วงที่ปูนาในธรรมชาติหายาก ราคาจะตกประมาณกิโลกรัมละ 50-60 บาท  แต่ถ้าอยู่ช่วงฤดูฝนจะมีปูนาตามธรรมชาติจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาเหลือเพียง 20-30 บาทต่อกิโลกรัม จะมีพ่อค้า-แม่ค้ามารับซื้อถึงฟาร์มโดยตรง